ในบทสัมภาษณ์ผู้กำกับล่าสุด แอรอน เคลเลอร์, ไดออน โรเจอร์ส ผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ และอเล็ก ดอว์สัน ผู้ช่วยผู้อำนวยการเกม ได้พูดคุยถึงปัญหาและสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของ Overwatch
เกมอีสปอร์ต Overwatch 2 วางจำหน่ายมาสามปีแล้ว และในวันครบรอบนี้ก็มีเรื่องราวดีๆ และเรื่องร้ายๆ มากมาย เหล่านักพัฒนาได้ใช้เวลาทบทวนถึงสาเหตุบางประการที่ทำให้ Overwatch 2 ประสบปัญหาเมื่อเทียบกับภาคแรก
เหล่านักพัฒนาเกมอีสปอร์ต Overwatch 2 ย้อนมองอุปสรรคใหญ่ที่สุดของเกม
เคลเลอร์กล่าวว่าเกมอีสปอร์ต Overwatch ภาคแรกนั้น “ราวกับมีเวทมนตร์” เพราะมันเข้ากันได้ดีกับทุกทีมที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม เขาสังเกตเห็นว่าเวทมนตร์นั้น “ระเหยหายไป” ระหว่างที่พัฒนา Overwatch 2
“ถ้าคุณคุ้นเคยกับประวัติศาสตร์ของภาคต่อ คุณจะจำได้ว่าวิสัยทัศน์ของสิ่งที่มันควรจะเป็นนั้นได้เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ความรู้สึกของการร่วมมือกันอย่างพร้อมเพรียงกับทีมได้ถอยกลับ และขึ้นอยู่กับพวกเราที่จะปรับเปลี่ยนและนิยามใหม่ของเกมนี้” เคลเลอร์เล่า
จุดเน้นดั้งเดิมของเกมอีสปอร์ต Overwatch 2 คือการสร้างเรื่องราวอันเข้มข้นและโลกที่มีชีวิตชีวา ซึ่งทำให้เกมยิงฮีโร่ภาคแรกมีความพิเศษ เมื่อการเน้นโหมดผู้เล่นคนเดียวล้มเหลว (และผู้เล่นเริ่มหันเหความสนใจไปที่เกมเพราะรู้สึกว่าคำสัญญาที่ผิดสัญญา) ทีมงานจึงหันไปหาประสบการณ์ PvP แบบแข่งขัน
“เมื่อเวลาผ่านไปและเราพบว่าตัวเองพัฒนาขึ้นในหลายๆ ด้าน” ดอว์สันกล่าวถึงการเข้าร่วมทีมในปี 2022 “มันทำให้เราสามารถถอยกลับมาคิดเชิงโครงสร้างเกี่ยวกับการวางแผนปีเกมอีสปอร์ต Overwatch ได้มากขึ้น เราจะวางแผนฤดูกาลที่สร้างผลกระทบและสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับผู้เล่นได้อย่างไร เราต้องการอะไรที่มากกว่านี้”
ไอเดียของ Dawson คือ Perks เขานำเสนอแนวคิดนี้หลังจากซีซัน 9 และทีมพัฒนาพบว่ามันค่อนข้างยากที่จะนำไปปฏิบัติจริง อย่างไรก็ตาม การให้ผู้เล่นมีวิธีปรับแต่งฮีโร่ให้เข้ากับสไตล์การเล่นของตนเองดูเหมือนจะเป็นความท้าทายที่คุ้มค่า
“เมื่อเวลาผ่านไป ความเสี่ยงเหล่านั้นก็เริ่มเห็นผล” Keller กล่าว “ชุมชนของเราสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาที่เรากำลังทำอยู่ เราจึงค่อยๆ เริ่มสร้างสิ่งเหล่านั้นให้ใหญ่ขึ้นและโดดเด่นยิ่งขึ้น การเพิ่ม Perks ในซีซัน 15 และ Stadium ในซีซัน 16 ทำให้เราก้าวไปสู่เส้นทางที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริง”
ณ จุดนี้ ทีมงานรู้สึกเหมือนเกมอีสปอร์ต Overwatch 2 “กลับมาแล้ว” เวทมนตร์ได้กลับมาแล้ว
บทเรียนและแผนการในอนาคตของ Overwatch 2
เมื่อเวลาผ่านไป ทีมงานได้ค้นพบว่าพวกเขาต้อง “สร้างความประหลาดใจและความสุข” ให้กับผู้เล่น แทนที่จะโต้ตอบ
Dawson กล่าวว่า “แต่สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากประสบการณ์นั้นคือ เรายึดติดกับบางสิ่งมากเกินไป ตอนนี้เรายินดีที่จะเสี่ยงและยินดีที่จะท้าทายตัวเองมากขึ้น
“ตอนนี้ทีมงานของเรากำลังดำเนินการกับความท้าทายเหล่านั้นอยู่” ฉันคิดว่าเราได้เรียนรู้มากมายเกี่ยวกับการทำงานร่วมกันอย่างดีและสิ่งที่เราสามารถทำได้ในฐานะทีม จนทำให้ความรู้สึกที่ยังคงอยู่ไม่น่ากลัวเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป”
ความท้าทายเพิ่มขึ้นเหรอ? จริงอยู่ Rogers ได้เปิดเผยรายละเอียดบางอย่างเกี่ยวกับสิ่งที่ผู้เล่นสามารถคาดหวังจาก Overwatch 2 หลังจากที่ทีมได้ตั้งหลักได้แล้ว ซึ่งรวมถึง ‘ฮีโร่ใหม่ที่ยังไม่ประกาศ’ และ ‘ทิศทางใหม่ที่โดดเด่น’ ในด้านภาพและธีมของเกม
“เรากำลังสำรวจมุมที่ยังไม่ถูกค้นพบในจักรวาลเกมอีสปอร์ต Overwatch และทดลองสไตล์และการเล่าเรื่องที่จะทำให้แม้แต่แฟนพันธุ์แท้ของเรายังต้องประหลาดใจ” Rogers กล่าว
ความรู้สึกนี้สร้างความสนใจให้กับชุมชนเกมอีสปอร์ต Overwatch 2 อย่างแน่นอน แม้ว่าจะค่อนข้างคลุมเครือก็ตาม อย่างไรก็ตาม คนอื่นๆ รู้สึกหงุดหงิดกับความพยายามของนักพัฒนาที่จะมองข้ามความล้มเหลวของแนวคิด PvE ดั้งเดิม
ผลกระทบต่อเกมอีสปอร์ต Overwatch 2 Esports
เนื่องจากทีมนักพัฒนาเกมอีสปอร์ต Overwatch 2 มุ่งเน้นไปที่ PvP จึงมั่นใจได้ว่าจะมีการอัปเดตมากมายที่จะส่งผลกระทบต่อวงการ Esports อย่างต่อเนื่อง
มีการเพิ่มสิทธิพิเศษในเกมอีสปอร์ต Overwatch Champions Series ในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งเพิ่มมิติใหม่ให้กับการจัดทีมและ กลยุทธ์ เดิมพันอีสปอร์ต dafabet การันตีค่าน้ำดีที่สุด และเงินชนะ 100%
Dafaesports รายงานว่าไม่ว่าโหมดเกมและการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่นใดที่นักพัฒนาให้ความสำคัญต่อไป ในที่สุดมันก็จะเข้าสู่วงการอีสปอร์ต และเป็นไปได้ว่าจำนวนผู้ชมอาจเพิ่มขึ้นหากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้เล่น Overwatch 2 ชื่นชอบ
dafabet เปิด เดิมพันอีสปอร์ต พนันออนไลน์ กีฬา เทนนิส ฟุตบอล บาสเก็ตบอล มวย พนันอีสปอร์ต ทัวร์นาเมนต์ทั่วโลก เล่นพนันได้ทุกแมตช์ สดและล่วงหน้า ค่าน้ำดี dafabet การันตีเงินชนะ เช็คผลบอลสด ดูถ่ายทอดสด ได้ทุกลีกทั่วโลก
